โดยนายสุพจน์ กล้าหาญ
การเตรียมตัวสู้ภัยธรรมชาติ
การเตรียมตัวรับพายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนมักใช้เวลาในการก่อตัวหลายวันจึงจะเคลื่อนที่ไปยังชายฝั่ง ส่วนใหญ่พายุจะก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่หากก่อตัวขึ้นในบริเวณมหาสมุทรอินเดียจะเรียกว่า “พายุไซโคลน” ซึ่งแม้ว่าพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรอินเดียจะไม่เคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพลจากการเกิดพายุดังกล่าวทำให้ฝนตกหนักและอาจเกิดน้ำท่วมได้ ซึ่งการเตรียมตัวรับพายุหมุนเขตร้อนอาจทำได้ดังนี้
o เมื่อเกิดพายุฤดูร้อนควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอยู่เสมอ หากอยู่ในทะเลต้องนำเรือให้เข้าสู่ชายฝั่งโดยเร็วที่สุด และไม่ควรหลบเข้าไปในเกาะเพราะหากเกิดพายุรุนแรงมากจะไม่ปลอดภัย
o เมื่อเข้าถึงชายฝั่งแล้วให้รีบออกห่างจากชายฝั่งทันทีและต้องอพยพไปยังที่ที่ปลอดภัย เช่น อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่แข็งแรง สามารถต้านทานแรงลมได้ และยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากภัยที่จะมาพร้อมกับการเกิดพายุ เช่น น้ำท่วมหรือดินถล่ม เป็นต้น
o หากพื้นที่ใดมีคำเตือนให้อพยพ ต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัยทันที
o ให้จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ เช่น อาหารแห้ง น้ำสะอาด ยา ไฟฉายพร้อมถ่าน วิทยุ ฯลฯ ไว้ในที่พัก เพราะพายุหมุนเขตร้อนอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และน้ำที่ท่วมขังอาจก่อให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง เป็นต้น
หากไม่สามารถหลบออกไปจากสถานที่เกิดเหตุให้อยู่ในที่พักจนกว่าเหตุการณ์ลมพายุจะสงบและได้รับแจ้งว่าเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว เพราะเมื่อพายุหมุนเขตร้อนผ่านเข้ามาลักษณะอากาศจะเลวร้าย มีพายุ ฝนฟ้าคะนอง แต่หากตาพายุหมุนเขตร้อนผ่านมา ท้องฟ้าจะแจ่มใส อากาศดี จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และเมื่อด้านหลังของพายุมาถึงสภาพอากาศก็จะเลวร้ายลงไปอีกและมีความรุนแรงมากกว่าเดิม สำหรับการวางแผนและการป้องกันความสูญเสียจากพายุหมุนเขตร้อน ควรจัดมาตรการป้องกันและลดความสูญเสียโดยมีการส่งคำเตือนให้ผู้เกี่ยวข้องทราบก่อนการเกิดพายุหมุนเขตร้อน พร้อมกับซ้อมการอพยพคนในพื้นที่เสี่ยงภัย การเตรียมด้านการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยังต้องรักษาสภาพของป่าไม้ ปรับปรุงสภาพแม่น้ำไม่ให้ตื้นเขิน และหากเกิดพายุหมุนแล้วควรมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น การจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย และควรให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
|