พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
ก่อนที่จะพูดถึงสาระบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้ ขอทำความเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการประกาศใช้กฎหมายนี้ ก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ถ้าเกิดกรณีความผิดฐานละเมิดขึ้น ไม่ว้าผู้กระทำละเมิดจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือบุคคลทั่วไป ก็จะบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามบทบัญญัติว่าด้วยการละเมิด ซึ่งมีหลักลูกหนี้ร่วม ซึ่งหลักดังกล่าวมุ่งหมายที่จะให้ผู้เสียหายได้รับการชดใช้เงินครบ โดยละเลยไม่คำนึงถึงความเป็นธรรมที่มีต่อเจ้าหน้าที่ซึ่ง ทำละเมิดในแต่ละกรณี
ในความเป็นจริงการที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในหน้าที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์เป็นการเฉพาะตัว การให้เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียหายเต็มจำนวน ฐานละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ในทุกกรณีเสมอไป ย่อมเกิดความไม่เป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ ทั้งที่บางกรณีเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัย หรือความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยหรืออาจจะเกิดจากความบกพร่องโดยรวมของระบบหน่วยงานของรัฐเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่จนบางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่กล้าตัดสินใจในการดำเนินงานเท่าที่ควร ก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารงานของหน่วยงานของรัฐ อนึ่งการให้คุณให้โทษแก่เจ้าหน้าที่ยังมีมาตรการในเรื่องวินัยของระบบบริหารงานบุคคลกำกับอยู่แล้ว
ดังนั้นจึงควรกำหนดให้เจ้าหน้าที่จะต้องรับผิดทางละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเมื่อจงใจกระทำเพื่อการเฉพาะตัว หรือจงใจให้เกิดความเสียหาย หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตรากฎหมายฉบับนี้ขึ้นใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แก่ผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ และเพิ่มพูนประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐ (ตอนหน้าจะพูดถึงสาระบัญญัติที่สำคัญที่เจ้าหน้าที่ควรจะต้องเข้าใจอย่างชัดเจน ในกฎหมายดังกล่าว)
วิชฤทธิ์ เพ็ชรเมือง
|